Travel and Lifestyle

, , , ,

บันทึกการเดินทางท่องเที่ยว จ.ตรัง [Trangtory ep.1]






บันทึกการเดินทางท่องเที่ยว จ.ตรัง ตอนที่ 1
ผ่านมา 2 ปีแล้วกับการเดินทางท่องเที่ยว จ.ตรัง นี่เป็นการมาเที่ยวตรังครั้งแรกของเราเลย แต่ว่าพี่โหน่งอะเคยมาแล้ว เพราะเป็นบ้านเกิดแม่ แต่แม่ย้ายไปอยู่ชัยนาทแล้ว แต่ก็ยังมีญาติๆ อาศัยอยู่ที่นี่ ฉันนอกเรื่องหรือเปล่านะ ฮ่าๆ เราเดินทางไปเที่ยวช่วงวันที่ 18-21 มีนาคม 2561 ขุดความทรงจำมาเขียนบันทึกกันเลยทีเดียว


Trang + Story = Trangtory


 • Day 1
เราเดินทางไป จ.ตรัง โดยสายการบินแอร์เอเชีย ถึงตรังประมาณ 09.00 น. วิธีการเข้าเมืองไม่ยาก เดินออกมาจากสนามบิน เจอป้ายรถตู้เข้าเมือง จ่ายเงินคนละ 90 บาท ส่งถึงที่พักเลย เจรจาต่อรองสอบถามได้เลย ไม่ต้องกลัวจ้า ที่พักวันแรกของเรา คือที่ นกฮูกเฮาส์ ตกแต่งสไตล์ลอฟท์ ห้องกว้าง สะดวกสบาย ราคาไม่แพง หารูปในห้องไม่เจอ ขอแปะลิงก์ที่พักไว้ให้เลยละกัน https://www.facebook.com/NokhookHouseTrang/



แวะเติมพลังกันก่อนไปเที่ยว


เจอสามสีนำโชค


วันนี้การท่องเที่ยวจะเป็นแบบแฟมิลีเดย์ เนื่องจากมีญาติอยู่ที่นี่ จึงเป็นทริปแบบคุณน้าจัดให้ สถานที่แรกที่เราจะไปก็คือ ถ้ำเลเขากอบ ที่นี่อยู่ในแพลนที่เราวางไว้อยู่แล้ว แนะนำว่าไม่ควรพลาดเลย มีความแอดเวนเจอร์ หวาดเสียวเล็กๆ แต่ก่อนที่จะถึงถ้ำเลเขากอบ คุณน้ามีความขับรถพาแวะไปโฉบที่เขาหัวแตกก่อน


ที่นี่จะมีกิจกรรมกีฬาทางน้ำ พายเรือคายัครอบเขา ฟีลลิ่งแบบสวนน้ำท่ามกลางธรรมชาติ ใจจริงแอบอยากเล่นน้ำอยู่เหมือนกันนะ แต่ไม่ทันตั้งตัวมาก่อนก็เลยได้แต่ด้อมๆ มองๆ


เสร็จจากเขาหัวแตกก็มายังถ้ำเลเขากอบกันค่ะ วิธีการเที่ยวก็คือเราจะต้องทำการจองคิวเรือก่อน ค่าเรือแบบเหมา 300 บาท เราสามารถหาคนหารแถวนั้นได้เลยนะ ตอนแรกลงจองไปแค่สองคน เนื่องจากคุณน้าไม่ยอมเล่นด้วย อีกสักพักก็มีคุณพี่คู่หนึ่งเดินมาพอดีเลยได้หารกัน จอยๆ กันไป ผู้โดยสารมี 4 คน พี่คนพายและบังคับทิศทางอยู่หัวเรือ 1 คน ท้ายเรือ 1 คน ฝากชีวิตไว้กับพี่เขาเลย
 


แอบส่องปฏิกิริยาของนักท่องเที่ยวตรงขาออกจากถ้ำก่อนจะไปลงเรือจริง

เราจะพายเรือเข้าถ้ำไป มีจุดลงเรือแล้วต้องเดินๆ ไปอีกจุดหนึ่ง ซึ่งเรือจะไปรอรับเรา อะไรทำนองนี้ บรรยากาศก็จะเป็นถ้ำๆ มีหินงอกหินย้อย คุณพี่นักพายท้ายเรือจะเดินเป็นไกด์ไปกับเราด้วย คอยแนะนำหินนู่นนี่ตามจุดต่างๆ มีความร้อนแฉะแบบทำให้เราหัวเปียกอะ อากาศหายใจน้อยหน่อย มีการติดตั้งไฟตลอดทางเดิน ไม่ค่อยน่ากลัว




จุดที่ระทึกที่สุดจะเป็นช่วงที่นั่งเรือลอดท้องมังกร ทุกคนต้องนอนราบไปเลย นอนสบายดี ฮ่าๆ มีความเสียวกลัวโดนหินกระแทกหน้าสุด



บรรยากาศตอนเดินถ้ำ พี่ไกด์ที่พายเรือถ่ายภาพให้เป็นที่ระลึก



ออกมาจากถ้ำแล้วจ้า


แชะภาพคู่รถตุ๊กตุ๊กหัวกบกันสักภาพก่อนจะไปยังจุดหมายต่อไป


สถานที่แห่งนี้มีนามว่า เขาปินะ


เข้าถ้ำอีกแล้วจ้า ละคุณน้าที่พามาคือคนขอนแก่นผู้รู้สถานที่ท่องเที่ยวใน จ.ตรัง ดีกว่าคุณน้าคนที่อยู่ตรังเสียอีก แต่ถ้าถามถึงที่เที่ยวในขอนแก่นก็ไม่รู้จ้า ฮ่าๆ บรรยากาศตรงเขาปินะก็จะประมาณนี้ คือไม่มีคนอื่นเลยยยย มีแค่เราจริงๆ เราว่าสวยดีนะ ในถ้ำจะค่อนข้างเหม็นค้างคาวหน่อย ที่นี่น่าจะไม่ได้รับการดูแลหรือประชาสัมพันธ์อะไรเท่าไหร่ น่าจะเป็นสถานที่ที่แบบยอดฮิตในอดีตประมาณหรือเปล่าไม่รู้ อันนี้คิดเอง




ไปต่อกันที่วังเทพทาโร ที่นี่จะนำรากไม้เทพทาโรมาทำเป็นมังกรแบบในภาพที่เราถ่ายมาเนี่ย มีความอเมซิ่งอยู่นะ แต่ก็ไม่ค่อยมีอะไรมากหรอก เป็นที่ที่แบบมีพาเด็กๆ มาทัศนศึกษาเดินศึกษาต้นไม้ ถ่ายรูป และก็น่าจะโดนใจคุณพ่อคุณแม่แบบมีอายุหน่อยๆ ถ้าผ่านมาทางนี้ก็แวะเข้ามาชมความสวยงามของแม่มังกรกันได้



หลังจากนั้นก็ได้เวลารับประทานอาหารกับครอบครัวที่ร้านโกช้อย คือตักข้าวไปประมาณ 4 จานได้ อาหารอร่อยมาก แกงส้มใต้ จะออกรสเปรี้ยว ถูกใจใครหลายคน แต่สำหรับเราคือเปรี้ยวเกินไปนิด ผัดสะตอกุ้งคือชอบมากก อันนี้โดนใจ แนบรูปมาให้ชม


หลังจากนั้นก็แยกย้ายกับญาติๆ โดยคุณน้าผู้ใจดีทิ้งมอเตอร์ไซค์ไว้ให้ 1 คัน ดีงาม ไม่ต้องไปเช่าแล้ว ประหยัดไปได้อีก เย้!


พอได้รถมาเราก็ขี่ชมแสงสีในเมืองยามค่ำคืนแถววงเวียนพะยูน หอนาฬิกา แวะตลาดสถานีรถไฟตรัง ก็เป็นตลาดทั่วไปไม่ได้มีอะไรโดนใจมาก ยังไม่หนำใจเลยไปอีกตลาดหนึ่ง มีนามว่าตลาดชินตา อารมณ์แบบตลาดนัดรถไฟที่กรุงเทพฯ เลย วัยรุ่นพรึ่บ ของกินเยอะ ตอนกลางคืนไม่รู้จะทำอะไรก็มาเดินชิมช๊อปที่นี่ได้


โดนโรตีกรอบไป กรอบแบบเว่อร์วัง กรอบจนจิ้มคอ ฮ่าๆ ของหวานก่อนนอนผลคือหลับสบายยย



 • Day 2
วันนี้ตื่นมาด้วยความหิว จุดหมายแรกของวันนี้ คือร้านเลตรัง 2 นัดกับคุณน้าไว้เสร็จสรรพ มาตรังไม่กินติ่มซำได้ไง แต่ก่อนไปลุยมื้อเช้าขอแนบภาพบรรยากาศที่นกฮูกเฮาส์ให้ชมกันก่อน






Let's Goooooo


ถึงร้านเลตรังแล้วจ้า รออะไรล่ะ เลือกติ่มซำโลดดด



จ๊อปูคือดีมากก เดอะเบส เนื้อปูเน้นๆ


ติ่มซำแป้งน้อย เนื้อเยอะ โอเคเลยอะ เข่งละประมาณ 20-25 บาท หลังจากอิ่มหนำสำราญ คุณน้าต้องไปทำงานต่อแล้ว ส่วนเราก็เที่ยวต่อ อิอิ เราขี่มอเตอร์ไซค์ตระเวนดูตามตรอกซอกซอยต่างๆ เจอสตรีทอาร์ตให้พอได้เก็บภาพมาบ้าง สืบเนื่องจากเมื่อวานคุณน้าบอกมีร้านอะไรสักอย่างกำลังฮิตนะ อยู่กลางทุ่งนาชื่อลมๆ หลวงๆ อะไรสักอย่าง เราได้ทำการเสิร์ชหาจนเจอ ร้านมีชื่อว่า ภูหลวง ลูกลม นาโยง อะไรทำนองนี้ ดูรูปประกอบเห็นว่ามีความน่ารักกก อะจัดไป!





วงเวียนพะยูน


ปักหมุดไปที่ ภูหลวง ลูกลม


ระหว่างทางก่อนที่จะเจอร้านภูหลวง เห็นป้ายเขาช้างหาย "เฮ้ยคืออะไรอะ เธอไปไหม? /ไปสิ" ง่ายๆ แบบนี้เลยจ้า

ตัดภาพมาในถ้ำเลยแล้วกัน ตรงหน้าทางเข้าถ้ำจะมีโต๊ะตั้งให้เช่าไฟฉาย 20 บาท แนะนำว่าให้เช่า เพราะมันค่อนข้างมืด ถ้ำนี้ไม่มีอะไรให้เสียว แต่มีความระทึก มืดๆ ไฟแวบๆ ส่องเองตกใจเอง


ใส่หมวกไว้ก็ดีนะ กันหัวกระแทกเจ้าหินงอกหินย้อย


บรรยากาศในถ้ำเขาช้างหาย จะมีหินงอกหินย้อยกลางทางเดิน หันมาตกใจนึกว่าคนยืนอยู่ ใจหายแวบบบ เราก็เดินตามไฟไปเรื่อยๆ มันจะมีทางเข้าและทางออกอีกทาง แต่เราเลือกออกทางเข้า คือมันเป็นทางต่ำๆ แบบต้องคลานแล้ว ละไม่มีคนอื่นอยู่เลยด้วย อยู่กันสองคนก็ตกใจกันเองแล้ว เลยไม่กล้าไปแล้วอะ ออกทางเข้าดีกว่า



แล้วพอออกมาด้านนอกเรียบร้อย เลยลองเดินไปชะเง้อดูตรงทางออก โอ้โห น่ากลัว ดีแล้วที่ตัดสินใจเดินวนกลับมาออกตรงทางเข้า อะ จบเรื่องเข้าๆ ออกๆ กันซะที ได้เวลาไปร้านภูหลวงตามที่ตั้งใจกันไว้แต่แรกละ



บรรยากาศเหมือนที่ร้านกาแฟไทลื้อ จ.น่าน
อันนี้ถ้าใครเคยไปน่าจะพอนึกออก




แม้แสงแดดจะแผดเผา
แต่คุณลมเขาก็ไม่น้อยหน้าหรอกนะ หัวกระเจิง


เติมพลังเสร็จแล้วก็ไปต่อกันที่ สวนพฤกษศาสตร์ทุ่งค่าย ที่นี่น่าสนใจตรงที่มีทางเดินศึกษาธรรมชาติแบบสะพานแขวน



เทียบความสูงจากยอดต้นไม้ดูสิ




ยิ่งสูงก็ยิ่งเสียว




เจอเจ้าสามสีอีกแล้ว




หลังจากนั้นเราก็กลับเข้าที่พักกัน ที่พักคืนที่สองของเรา มีนามว่า a local something hostel สวยมาก มีสไตล์ ถูกใจข้ายิ่งนัก แปะลิงก์ไว้ให้ไปแอบส่องดูกันนะ https://www.facebook.com/alocalsomethinghostel/


วิวเมืองจากระเบียงห้องพักของเรา ในมุมมืดคือดิฉันเองค่ะไม่ต้องตกใจ :D




ภายในห้อง


บรรยากาศที่ a local something hostel


บริเวณดาดฟ้า เป็นบาร์ขนาดเล็ก นั่งกินดื่มกันได้ชิลๆ



รูปบนสองรูป และรูปล่าง ถ่ายด้วยกล้องฟิล์ม



หลังจากรับประทานมื้อเย็นเรียบร้อยแล้ว จำชื่อร้านไม่ได้ แต่จำได้ว่าเป็นอาหารใต้ ห้ามพลาดเลยนะ เราต้องเต็มที่นะทุกคน ฮ่าๆ กลับมานั่งชิลที่ร้านตรงดาดฟ้าบนที่พักกันต่อ บรรยากาศดีเลยล่ะ


ยามค่ำคืนจากถนนหน้าที่พัก วันนี้ต้องรีบเข้านอนเก็บแรงกันสักหน่อย เพราะพรุ่งนี้เราจะไปทริปดำน้ำกัน ซื้อทริปไว้เรียบร้อยแล้ว นัดเวลากับพี่รถตู้ไว้แต่เช้า ถ้าจำไม่ผิดน่าจะ 07.00 น.



Thought Travel & Lifestyle
เดินทาง ค้นพบ และเรียนรู้ในแบบฉบับของวงกลม.

Share:
Read More
, , , , ,

บันทึกการเดินทางท่องเที่ยว จ.ตรัง [Trangtory ep.2]

วันนี้จะเป็นวันที่เราออกไปทริปดำน้ำกัน เราเลือกแพคเกจดำน้ำและพักที่เกาะไหง ราคาน่าจะประมาณ 1,500 บาท ต่อคน

โปรแกรม
ถ้ำมรกต
เกาะกระดาน
เกาะเชือก
พักที่เกาะไหง 1 คืน





เข้าแถวรอลงเรือกันจ้าาา


ไปลงเรือตรงนู้นนนน พี่เขาไม่ได้กล่าว เราคิดไปเอง




• Day 4
อยู่บนเรือเรียบร้อยแล้ว พี่ๆ ทีมงาน ไกด์บนเรือน่ารักมาก ให้คำแนะนำดี ตลก ห่วงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวทุกท่านเป็นอย่างดี ที่สำคัญคืออาหารบนเรืออร่อยจริง ยิ่งว่ายน้ำยิ่งเหนื่อย ยิ่งอร่อย


จุดหมายแรกของเรา ถ้ำมรกต


วิธีการเข้าถ้ำมรกต คือเกาะชูชีพกันเป็นแถวยาว และช่วยกันปั่นจักรยานน้ำเข้ามา เป็นบรรยากาศที่น่ารักมาก




อันนี้อยู่ด้านในถ้ำมรกตแล้ว



ภาพนี้น่าจะที่เกาะกระดาน


ทะเลตรังน้ำจะไม่ใสเท่าแถวกระบี่ ปะการังต่างๆ ก็ไม่ค่อยเห็นเท่าไหร่ แต่ด้วยความที่ยังไม่ใช่จังหวัดท่องเที่ยวจัดๆ ไม่เท่ากระบี่ ภูเก็ต สมุย บรรยากาศก็จะชิลๆ กว่า อันนี้อธิบายไม่ถูกแต่สัมผัสได้ เจอนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติที่ค่อนข้างเป็นกันเองน่ารัก รวมไปถึงทีมงานนำทัวร์ก็อัธยาศัยดี เลยเป็นการทัวร์ที่ค่อนข้างประทับใจเลย




ตอนดำน้ำไม่ค่อยเจอปลา แต่มาเจอตอนที่เดินอยู่บนชายหาด


ตอนดำน้ำเจอหอยเม่นเยอะมาก ยกเท้าไว้ค่ะทุกคนนน บรรยากาศใต้น้ำไม่ค่อยได้เก็บภาพมา ห่วงเล่น^^


เป็นคนที่ว่ายน้ำไม่เป็น แต่พอได้ใส่ชูชีพแล้วฉันเก่งมากกก



พี่เจ้าหน้าที่ไกด์ใส่ชุดดำน้ำจัดเต็ม คอยว่ายน้ำดูแลอยู่ใกล้ๆ นักท่องเที่ยวตลอด


นั่นไงเกาะไหง เตรียมลงป้ายหน้านะไอหนู ป้าไม่ได้กล่าว

นอนเต็นท์ริมชายหาด ที่ เกาะไหงแคมป์ปิ้ง นี่เป็นการนอนเต็นท์ริมทะเล บนทรายครั้งแรกของเราเลย ปกติก็ไปแต่ในป่าในเขา ค่อนข้างรำคาญทรายติดขานิดหน่อย ในส่วนของเต็นท์คือก็ดีนะ ใหญ่โต ถือว่านอนสบาย เรานอนหลับได้ปกติเลย มีระแวงนิดหน่อย เพราะบริเวณที่พักไม่มีรั้วใดๆ แบบไม่มีอาณาเขตของที่พัก ทรัพย์สินมีค่าอย่างเช่น กล้องถ่ายรูป กระเป๋าสตางค์ ก็จะต้องพกติดตัวไปทุกครั้ง ส่วนห้องน้ำก็ค่อนข้างเซอร์มากๆ แอบกลัวตรงส่วนนี้ที่สุด เราก็รีบอาบน้ำทำธุระต่างๆ อย่างรวดเร็วให้มันผ่านๆ ไป ฮ่าาา



ตรงนี้จะมีร้านอาหาร อันนี้คือดีมากกก ตราตรึงในภาพความทรงจำ อาหารและค๊อกเทลรสชาติดีมาก เข้มข้นสุด แล้วนั่งชิลริมน้ำทะเลบวกกับอาหารอร่อยๆ อันนี้คือประทับใจจริง เกินคาด



เต็นท์สีเขียวๆ นั่นคือที่พักของเรา


เดินเล่นตามแนวชายหาดไปเรื่อยๆ ที่เกาะไหงมีโรงแรมด้วยนะ ถ้าอยากได้ความสะดวกสบายก็อาจจะแนะนำให้เลือกแพคเกจ หรือจองที่พักที่เป็นโรงแรม ถ้าอยากได้ความถูกและรับความเซอร์ได้ ลองมาพักที่เกาะไหงแคมป์ปิ้งแบบเราได้ จริงๆ ถ้ามากับเพื่อนหลายๆ คนอาจจะอุ่นใจกว่า เรามากันสองคนก็แอบระแวงนิดหน่อย ให้เรียกว่าระวังตัวก็น่าจะดีกว่า อย่าประมาทดีที่สุดนะจ๊ะ


บรรยากาศช่วงเย็น ณ เกาะไหง





รูปจากกล้องฟิล์ม


มื้อดึกมาโดนพิซซ่าอีกรอบ อร่อยอีกแล้วว เลิฟฟ


เช้าวันใหม่แล้วจ้า ลุกออกมาเดินเล่นชายหาดกัน น้ำลงไปเยอะมาก



งานอาร์ตจากสัตว์ทะเลตัวน้อย



เดินทางกลับฝั่งที่ท่าเรือปากเมงกัน ได้เวลาตื่นเต้นอีกหนึ่งรอบ เพราะเราแอบกลัวเรือที่มันโคลงเคลงๆ



ภาพจากกล้องฟิล์ม


มองย้อนกลับมาที่เกาะไหง บ๊ายบายยย


ยังพอมีเวลาเหลือก่อนนั่งเครื่องบินกลับกรุงเทพฯ เราเลยแวะไปฝากท้องที่ร้านเลตรังอีกรอบ


ลืมพูดถึงของดีอีกหนึ่งอย่างของ จ.ตรัง นั่นก็คือ หมูย่าง หารูปไม่เจอ แต่อยากให้ลองไปชิมกันดู ตลาดในเมืองมีหลายร้านเลย ถามไถ่ผู้คนที่นี่ได้ ผู้คนน่ารักอัธยาศัยดี ตอนกลางวันดูเหมือนเงียบเหงา แต่ตอนกลางคืนออกมานั่งกินโรตี กินชากันให้พรึบ เป็นอีกหนึ่งทริปที่ประทับใจและสนุกมาก หรือเพราะแค่ได้ออกไปเที่ยวมันก็สนุกแล้วก็ไม่รู้นะ เพราะเราไปไหนก็สนุกตลอดเลยอะ ฮ่าๆ ลองไปสัมผัสความประทับใจและความสนุกที่ จ.ตรัง แบบเรากัน รับรองว่าจะติดใจ 



Thought Travel & Lifestyle
เดินทาง ค้นพบ และเรียนรู้ในแบบฉบับของวงกลม.


Share:
Read More