Travel and Lifestyle

, , ,

WAGYUISM เน้นเนื้อวากิวแท้ ไม่แพ้บินไปญี่ปุ่น!




WAGYUISM (อารีย์สัมพันธ์ 5) เน้นเนื้อวากิวแท้ ไม่แพ้บินไปญี่ปุ่น
ร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่น ที่เน้นเนื้อวากิวญี่ปุ่นแท้
สายเนื้อห้ามพลาด!!



ความพิเศษของร้าน WAGYUISM คือ ทางร้านนำเข้าเนื้อวากิวเอง ส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่นเลย เดิมทีเจ้าของทำกิจการนำเข้าเนื้อวากิวอยู่แล้ว เลยเปิดร้านอาหารเองด้วยซะเลย เป็นผู้นำเข้าเนื้อวากิวที่ได้ใบรับรองและโล่รับประกันคุณภาพ Kobe Beef Marketing & Distribution Promotion Association จากเมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว คุณจะได้รับประทานเนื้อที่ดีและมีมาตรฐานแน่นอน




Yuzu soda เพิ่มความสดชื่น พร้อมรับประทานเนื้อแสนอร่อย ^^


เริ่มกันที่ ข้าวหน้าเนื้อวากิวญี่ปุ่น เสิร์ฟคู่ไข่แดงดอง (430 บาท)



เมนูเนื้อสเต๊ก จะคิดราคาตามเกรด น้ำหนัก และส่วนของเนื้อ มีราคาแจ้งชัดเจน สามารถเลือกสไตล์การปรุงได้ถึง 2 แบบ คือการย่างแบบธรรมดา และการรมควันด้วยไม้แอปเปิ้ล ระหว่างรอสเต๊กเนื้อมาเสิร์ฟ เราไปต่อกันที่เมนู นื้อวากิวโกเบ A5 ย่างเองบนหินภูเขาไฟร้อน


เนื้อวากิวโกเบ A5 ลายสวย น่ารับประทาน ><


ย่างบนหินภูเขาไฟร้อนๆ เนื้อนุ่มๆ สุดฟิน


สั่งสลัดผักรวมและปลาเงินทอดกรอบ (280 บาท) มาเป็นกับแกล้ม ขบเคี้ยวเพลินๆ อร่อย


ได้เวลาของสเต๊กเนื้อวากิวญี่ปุ่นแล้วววว (ราคาตามป้าย) เราเลือกกรรมวิธีเป็นการรมควันด้วยไม้แอปเปิ้ล





สำหรับคนรักเนื้อคุณภาพดี รสชาติอร่อย ไม่ต้องไปไกลถึงญี่ปุ่นแล้ว แค่มาที่ร้าน Wagyuism ซอยอารีย์สัมพันธ์ 5 ก็พอ เพราะทางร้านส่งตรงเนื้อมาจากญี่ปุ่น แถมที่ร้านก็บรรยากาศดี ตกแต่งผสมผสานใส่ความเป็นญี่ปุ่นได้อย่างเท่และลงตัว



wagyuism (อารีย์สัมพันธ์ 5)
ร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่น ที่เน้นเนื้อวากิวญี่ปุ่นแท้

วันและเวลาทำการ

  • วันอังคาร-พฤหัส เวลา 11:30-15:00 น. และ 17:00-22:00 น.
  • วันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 11:30-15:00 น. และ 17:00-23:00 น. (ปิดวันจันทร์)

การเดินทาง

  • อยู่ไม่ไกลจาก BTS อารีย์และสนามเป้ามากนัก สามารถนั่งวินมอเตอร์ไซค์เข้ามาได้
  • จอดรถได้ในโครงการ DayDay Ari เข้าซอยมาแล้วเลี้ยวซ้ายเลย

Share:
Read More
, , , ,

8 สถานที่น่าเช็กอิน จ.อยุธยา Weekend Guide | WongGlom






1. วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร


วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร วัดสวยโดดเด่นแปลกตาสไตล์โกธิก ตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยา พระอุโบสถของวัดสร้างเลียนแบบโบสถ์คริสต์ ไฮไลท์ของวัดนี้นอกจากความสวยงามของพระอุโบสถแล้ว ก็คงหนีไม่พ้นช่วงที่เราเดินทางข้ามน้ำไปยังวัด เพราเราต้องนั่งกระเช้าไฟฟ้าลอยน้ำข้ามไปนั่นเอง ข้ามฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย แต่สามารถร่วมทำบุญเพื่อเป็นค่าบำรุงรักษาได้ค่ะ






วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร

วันและเวลาทำการ

  • วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00 - 17.00 น.
  • วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.00 - 18.00 น.
  • วันหยุดนักขัตฤกษ์อาจมีการเปลี่ยนแปลง*

ค่าเข้าชม

  • ไม่เสียค่าเข้าชม

2. The Summer House


คาเฟ่สุดชิล บรรยากาศน่ารัก น่านั่ง มีทั้งโซนด้านในแอร์เย็นฉ่ำ และโซนด้านนอกติดริมแม่น้ำ มีพร้อมทั้งของคาว ของหวาน และเครื่องดื่มต่างๆ แวะมาเติมพลังกันได้







the Summer House

วันและเวลาทำการ

  • ร้านเปิดทุกวัน เวลา 09.30 - 21.30 น.


จะออกไปเที่ยวแต่ละทีก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมหน่อยเนอะ สภาพอากาศบ้านเราส่วนใหญ่จะหนักไปทางร้อน กับร้อนมากด้วยสิ คือนอกจากทาครีมกันแดดสารพัดอย่างแล้ว เราว่าการปกป้องสายตาจากรังสียูวีก็สำคัญไม่แพ้กัน ทุกคนควรมีแว่นตากันแดดติดกระเป๋าเอาไว้ด้วย คือนอกจากจะปกป้องสายตาจากรังสียูวี แว่นตานี่แหละคือพรอพในการถ่ายรูปที่ไม่มีเอาท์เลย ยิ่งถ้าได้แว่นตาจากโบลอน Bolon ก็ยิ่งเสริมลุคให้ดูดีมีสไตล์มากขึ้นแบบคูณสิบไปเลยยย ขอพื้นที่ขายของหน่อยน้าาา ^^ เลือกแว่นที่ใช่ ทรงที่ชอบในแบบที่เป็นคุณจาก BOLON ได้ที่ร้านแว่นตาตัวแทนจำหน่าย รายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://bolon.co.th/ หรือเฟสบุ๊ก Bolon Eyewear Thailand


3. หมู่บ้านญี่ปุ่น


หมู่บ้านญี่ปุ่น ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของแม่นํ้าเจ้าพระยา เป็นถิ่นที่อยู่ดั้งเดิมของชุมชนชาวญี่ปุ่นในสมัยอยุธยา อยู่ตรงข้ามกับหมู่บ้านโปรตุเกส ซึ่งเป็นที่ตั้งของชุมชนชาวต่างชาติที่เดินทางมาค้าขายในกรุงศรีอยุธยา ไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้านโปรตุเกส ฮอลันดา อังกฤษ โดยต่างได้รับพระราชทานที่ดินตั้งชุมชนบ้านเรือนอยู่บริเวณใกล้เคียงกัน



หมู่บ้านญี่ปุ่น ได้รับการปรับปรุงครั้งแรก ในปี พ.ศ.2529 โดยรัฐบาลญี่ปุ่นให้เงินช่วยเหลือแบบให้เปล่า 999 ล้านเยน (ประมาณ 170 ล้านบาทไทยในขณะนั้น) เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 60 พรรษา (พ.ศ.2530) และเป็นที่ระลึกในโอกาสครบรอบ 100 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ญี่ปุ่น

ขอบคุณข้อมูลประกอบจาก http://www.japanesevillage.org/






นิทรรศการแบ่งออกเป็น 2 อาคาร อาคารแรกจะนำเสนอเรื่องราวความรุ่งเรืองของกรุงศรีอยุธยา เส้นทางเดินเรือ การติดต่อค้าขาย วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนญี่ปุ่นในอยุธยา อีกอาคารจะเป็นนิทรรศการยามาดะ นางามาซะ (ออกญาเสนาภิมุข) และท้าวทองกีบม้า



บรรยากาศโดยรอบจะเป็นสวนร่มรื่น มีต้นไม้ขนาดใหญ่ อยู่ติดริมแม่น้ำ บรรยากาศดี นอกจากเข้าชมนิทรรศการต่างๆ แล้ว ก็มีบริการให้เช่าชุดยูกาตะ เดินเล่นถ่ายรูปกับเสาโทริอิแก้คิดถึงประเทศญี่ปุ่นไปพลางๆ ก่อนได้




หมู่บ้านญี่ปุ่น

วันและเวลาทำการ

  • วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.30 - 18.00 น.
  • วันเสาร์-อาทิตย์ และนักขัตฤกษ์ เวลา 08.30 - 18.00 น.

ค่าเข้าชม

  • คนไทย ผู้ใหญ่ 50 บาท / เด็ก 20 บาท
  • ต่างชาติ คนละ 50 บาท
  • ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 20 บาท
  • เด็กอายุต่ำกว่า 7 ปี ไม่เสียค่าเข้าชม


4. ขนมจีนต้นก้ามปูอโยธยา


ร้านอาหารที่ค้นเจอโดยการจิ้มที่ Google Maps ก่อนมา พอเห็นรูปขนมจีนน้ำยาปูก็ตกลงปลงใจมาเลย ภายในร้านบรรยากาศเหมือนอยู่ภาคเหนือ เมนูเยอะมาก มีทั้งอาหารเหนือและอาหารไทยทั่วไป ลูกค้าเข้ามาไม่ขาดสาย โต๊ะรับรองเยอะ มีลานจอดรถด้านหลังร้าน เมนูแนะนำ ได้แก่ ขนมจีนน้ำยาปู ข้าวซอยไก่ กุ้งเผา ตำหลวงพระบาง เป็นต้น




บรรยากาศเหมือนอยู่ภาคเหนือ


ขนมจีนต้นก้ามปูอโยธยา

วันและเวลาทำการ

  • เปิดทุกวัน เวลา 09.00 - 18.00 น.


ต้นไม้ใหญ่บริเวณลานจอดรถข้างวัดราชบูรณะ
แผนที่บริเวณลานจอดรถ https://goo.gl/maps/cbqWnTmcJFk2qUza6

หลังจากนั้น เราขับรถไปยังลานจอดข้างวัดราชบูรณะ ไม่ค่อยอยากจอดริมถนนเท่าไหร่ และพอดีว่าตรงลานจอดว่างเกือบทุกครั้งที่เราไปเลยด้วย เสร็จแล้วเราก็เดินย้อนไปที่วัดมหาธาตุก่อน (เป็นวิธีการย่อยอาหารของเรา เราชอบเดิน ฮ่าๆ ถ้าใครไม่สะดวกเดิน สามารถไปจอดรถหน้าวัดมหาธาตุเลยก็ได้ แต่รถจะค่อนข้างเยอะนะ)

พอเที่ยวที่วัดมหาธาตุจนเหนื่อย ก็ค่อยไปกินของหวานที่ร้าน Busaba Cafe & Bake Lab พออิ่มๆ ก็ไปเดินต่อที่วัดราชบูรณะ เรียงลำดับตามนี้ค่ะ


5. วัดมหาธาตุ


ไฮไลท์ของวัดมหาธาตุ คือ เศียรพระพุทธรูปกว่าร้อยปีในรากไม้ เศียรพระพุทธรูปเป็นพระพุทธรูปหินทรายเหลือแค่ส่วนเศียรเท่านั้น มีความสวยงามแปลกตา ราวกับว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ นับเป็นอีกหนึ่ง Unseen Thailand ที่ดังไกลไปทั่วโลก


สร้างเมื่อ พ.ศ. 1917


เศียรพระพุทธรูปกว่าร้อยปีในรากไม้ งดงามและแปลกตามาก



เลือกแว่นที่ใช่ ทรงที่ชอบในแบบที่เป็นคุณจาก BOLON แบบที่เราใส่คือรุ่น Gigi สี Blue Gray #BL7093 https://bolon.co.th/products/bl7093 ใส่สบาย ไม่หนักหน้า วัสดุแข็งแรงดีเลยล่ะ ประทับใจ แล้วด้วยความที่คุณญาญ่ามาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ เราก็โดนตกไปด้วยเยยยยย



วัดมหาธาตุ

วันและเวลาทำการ
  • เปิดทุกวัน เวลา 08.30–16.30 น.

ค่าเข้าชม

  • คนไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท
  • ต่างชาติ น่าจะประมาณ คนละ 50 บาท อันนี้ไม่แน่ใจ*


6. Busaba Cafe & Bake Lab


Busaba Cafe & Bake Lab เป็นคาเฟ่ที่ขนมอร่อย เครื่องดื่มดี ร้านสวยและทำเลดี สามารถมองเห็นวิวพระปรางค์ของวัดราชบูรณะได้บริเวณชั้น 4 โดยส่วนตัวเรามาร้านนี้สองรอบแล้ว ติดใจขนมชิฟฟอน เลมอนครีม เลิฟมาก นอกจากชิฟฟอนก็จะมีแซนวิช ซอฟต์เบรด สโคน และไอศครีม


บริเวณด้านหน้าร้าน อยู่ฝั่งตรงข้ามวัดราชบูรณะ


เมนูเครื่องดื่มหลากหลายและน่ารับประทานทั้งสิ้น
Busaba Coffee, Cream Cheese, Soda & Smoothie and Float


ติดใจครีมเลมอน ^^



busaba cafe & bake lap

วันและเวลาทำการ

  • เปิดทุกวัน เวลา 09.00 - 18.00 น.


7. วัดราชบูรณะ


วัดราชบูรณะ จัดเป็นหนึ่งในวัดที่ใหญ่และมีความเก่าแก่มากที่สุดในพระนครศรีอยุธยา วัดราชบูรณะมีชื่อเสียงและความโด่งดังมากในเรื่องการถูกกลุ่มคนร้ายจำนวนหนึ่ง ลักลอบขุดกรุภายในพระปรางค์ประธาน ในปี พ.ศ. 2499 และลักขโมยทรัพย์สมบัติจำนวนมากมายมหาศาลหลบหนีไป ต่อมากรมศิลปากรเข้าทำการบูรณะขุดแต่งต่อภายหลัง พบทรัพย์สมบัติที่หลงเหลือและเครื่องทองจำนวนมากมาย ปัจจุบันทรัพย์สมบัติภายในกรุถูกเก็บรักษาไว้ที่ห้องราชบูรณะ ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา

ขอบคุณข้อมูลจาก https://th.wikipedia.org/





วัดราชบูรณะ

วันและเวลาทำการ
  • เปิดทุกวัน เวลา 08.30–16.30 น.

ค่าเข้าชม

  • คนไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท
  • ต่างชาติ น่าจะประมาณ คนละ 50 บาท อันนี้ไม่แน่ใจ*

แผนที่


8. กินกุ้งเผาที่ตลาดกลาง


ปิดท้ายวันนี้ด้วยกุ้งเผา มาอยุธยาทั้งทีก็รู้สึกว่าต้องได้กุ้งเผาสักตัวมาเยียวยาจิตใจอะเนอะ อิอิ เราแวะไปที่ตลาดกลางอยุธยา อาจจะฉีกเส้นทางออกไปสักหน่อย (ยังไงลองหาร้านที่อยู่บริเวณเส้นทางที่กลับบ้านสะดวกละกันนะ) ส่วนกินที่ร้านไหนขอไม่ระบุ ให้เพื่อนๆ เลือกร้านกันเอง กลัวทำผิดหวัง ฮ่าๆ แต่ถ้าใครมีร้านเด็ดๆ รบกวนหลังไมค์มาด้วย ^^


ปิดท้ายวันนี้ด้วยรูปที่ดูไม่อยุธยาที่สุด ฮ่าๆ

บางคนอาจจะยังติดอยู่กับความคิดว่าอยุธยาก็มีแต่วัดๆๆ และวัดเต็มไปหมด ถูกค่ะ! มีวัดเยอะจริงๆ แหละ แต่เดี๋ยวนี้เขาชิคขึ้นเยอะมากก เราเองก็แปลกใจอยู่เหมือนกัน นอกจากจะได้เข้าวัดวาอาราม ทำบุญไหว้พระ ชมโบราณสถานต่างๆ ยังมีพิพิธภัณฑ์อีกหลายแห่งให้ได้เรียนรู้ และเดี๋ยวนี้เขามีคาเฟ่ ร้านอาหารสวยๆ งอกขึ้นมาอีกเพียบ ให้เราได้แวะเติมพลังระหว่างวัน วันหยุดสุดสัปดาห์กับครอบครัวที่อยุธยาก็น่าจะสนุกมากกว่าที่เคยนะ :)

ด้วยความปรารถนาดี
Share:
Read More