มกราคม 2020 ~ WongGlom

ไปเที่ยวแถวเขาใหญ่มาก็หลายที ทั้งเดย์ทริป ทั้งกางเต็นท์นอนในอุทยาน สมบุกสมบันมาหลายครั้ง

ครั้งนี้เลยอยากจะขอพักที่สวยๆ งามๆ กับเขาบ้าง

Hotel Labaris Khaoyai โรงแรมแถบเขาใหญ่ที่น่าจะกำลังอยู่ในลิสต์ของใครหลายๆ คน หลังคาทรงสูงคล้ายปราสาทสีดำ สถาปัตยกรรมที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ เราว่าเพื่อนๆ น่าจะเคยเห็นภาพผ่านตากันมาบ้างแล้ว บวกกับคอนเซ็ปต์เขาวงกต แต่งเติมเรื่องราวดั่งเทพนิยาย ให้เรารู้สึกเหมือนกับว่ากำลังผจญภัยอยู่ในดินแดนต้องมนต์ พนักงานจะเรียกแขกผู้มาเข้าพักว่า “นักเดินทาง” เราเติมความติ่งแฮรี่พอตเตอร์เพิ่มเข้าไปอีกนิด คือฟินนน สร้างโลกแห่งจินตนาการขึ้นมา ตัดขาดจากโลกความเป็นจริงไปเสียบ้าง มันก็ดีเหมือนกันเนอะ

แรงบันดาลใจการตกแต่งของโรงแรม มาจากตำนานปกรณัมกรีกอย่าง มิโนทอร์ (Minotaur) รูปแบบของสถาปัตยกรรมจะคล้ายปราสาทในเทพนิยาย ให้ความรู้สึกลึกลับ น่าค้นหา คำว่า Labaris เป็นภาษาลาติน ซึ่งเป็นรากศัพท์ของคำว่า Labyrinth ที่แปลว่า เขาวงกต จึงเป็นแรงบันดาลใจในการตกแต่งส่วนต่างๆ ของที่นี่นั่นเอง

ผู้ที่เข้าพักจะถูกเรียกว่า “นักเดินทาง” และพนักงาน คือ “ผู้นำทาง” เป็นโรงแรมที่มีคอนเซ็ปต์ และเพิ่มสตอรี่ไว้ได้อย่างดี การตกแต่งสวยงาม ลึกลับ น่าค้นหา ท่ามกลางธรรมชาติ ดินแดนสมมติ อาณาจักรลาบาริสแห่งนี้ แบ่งโซนเป็น 5 Chapter เสมือนหนังสือนิยาย เราไปสำรวจแต่ละ Chapter กันดีกว่าค่ะ

Chapter 1 : Welcome Zone

ส่วนต้อนรับด่านแรกที่ดูเป็นทางเดินวกวนท่ามกลางสวนที่ตกแต่งอย่างสวยงาม บริเวณนี้ยังเป็นที่ตั้งของ Rabbit Cafe ในส่วนนี้เพื่อนๆ สามารถแวะมาใช้บริการได้ โดยไม่จำเป็นต้องเข้าพักที่โรงแรม

Chapter 2 : The Heart of Labyrinth (Hotel Zone)

เหล่านักเดินทางทุกท่านจะต้องมารายงานตัวบริเวณนี้ (เช็คอิน)

ประตูที่เห็นในภาพ จะนำเหล่านักเดินทางไปยังห้องพักของตน

ก่อนเหล่านักเดินทางจะเข้าห้องพำนัก จะต้องเดินผ่านทางที่ดูเป็นเขาวงกตแห่งนี้ก่อน

ห้องพักประเภท Grand Deluxe Room

ห้องพักกว้างขวาง เตียงขนาดใหญ่นอนสบาย ดีไซน์สวย แถมฟรีมินิบาร์ด้วยน้าาา

เราแอบแปะข้อมูลห้องพักไว้ให้เพื่อนๆ พิจารณานะ

http://hotellabaris.com/rooms.php

บริเวณทางเดินที่เชื่อมจากส่วนห้องพัก

ไปยังห้องอาหาร และสระว่ายน้ำ

ด้านในสุดของโรงแรมจะติดลำธารธรรมชาติ ทางโรงแรมตั้งชื่อว่า Endless River

แวะมาชมในส่วนของสระว่ายน้ำ กรี๊ดมากก ชอบบบ

กลับห้องไปเปลี่ยนชุดโดยด่วน เตรียมไปเล่นน้ำกันค่าาา

เลิฟในส่วนนี้มากกก เล่นน้ำเพลินมากกกก

Chapter 3 : Explore The Secret Room

บริเวณนี้จะเป็นกำแพงกระจกสร้างภาพลวงตาให้เราได้เห็นป่าไม้ที่สะท้อนไปมาไม่มีสิ้นสุด แล้วยังเป็นทางเดินไปสู่ห้องพักประเภท Pool Villa อีกด้วย

Chapter 4 : Tracking the Beauty of Romance

ห้องอาหารเพียงแห่งเดียวในดินแดนลาบาริส ที่เหล่านักเดินทางจะมาเพิ่มพลังงานกัน

Iced Matoom Milk Tea 140.

ในส่วนนี้ก็บรรยากาศดีไม่แพ้ส่วนอื่นเลย บรรยากาศอบอุ่น รับประทานอาหารกับครอบครัว กับคนที่เรารักเพลินๆ มีโต๊ะที่สามารถรองรับแขกได้หลายประเภท ราคาเอาเรื่องเป็นบางเมนู แต่ก็สมเหตุสมผล อาหารคุณภาพดี รสชาติอร่อย โดยรวมแล้วประทับใจมาก แนะนำให้รับประทานมื้อเย็นที่นี่ได้เลย

ซ้อมเลือกเมนูไว้ในใจก่อนได้เลย นำมาฝากเพื่อนๆ ตรงนี้แล้วจ้า Labaris Restaurant Menu
http://hotellabaris.com/docs/menu-hotel-labaris.pdf

Green Summer 350.-

Labaris Restaurant : Thai Cuisine and Grill Bar

All Day Dining 11.00 am - 10.00 pm

เช้าวันใหม่...

เหล่านักเดินทางที่จองห้องพักแบบรวมอาหารเช้า ก็จะมารวมตัวกันที่นี่ ณ ห้องอาหารหนึ่งเดียวในอาณาจักรลาบาริส ที่เดียวกับตอนที่เรารับประทานมื้อค่ำเลยค่ะ อาหารเช้าจะเป็นแบบบุฟเฟต์ มีอาหารหลากหลายมากกกก เราเชื่อว่าอาหารเช้านี่เป็นหน้าเป็นตาให้กับโรงแรมเลยนะ และที่นี่ก็ทำได้ดีมาก

เรามีเวลาอีกไม่มากในอาณาจักรลาบาริสแห่งนี้

เลยขอใช้เวลาออกสำรวจมุมต่างๆ เพิ่มอีกสักหน่อย

Chapter 5 : The Meander Wonderer

อีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่ ก็คงจะเป็นสระว่ายน้ำที่ทอดยาววนไปวนมาคล้ายลำธารนี่แหละ คือยังคงคอนเซ็ปต์เขาวงกตให้เราได้ผจญภัยอยู่ ว่ายน้ำท่ามกลางแมกไม้นานาพันธุ์กันไป เป็นการเล่นน้ำที่เพลินมาก ว่ายๆ เดินๆ หรือจะเกาะเจ้าบีนแบ็กลอยตัวไปเพลินๆ ก็ได้ เราติดใจส่วนนี้มาก