Travel and Lifestyle

, , , ,

The Cheesecake Factory Bakery บุกไทย!

The Cheesecake Factory Bakery
ชีสเค้กเนื้อแน่น อันดับ 1 ในอเมริกามาถึงไทยแล้ว!

  
ความพิเศษของชีสเค้กเหล่านี้ คือทุกชิ้นนั้นข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากแดนไกล ส่งตรงมาจากอเมริกาทั้งปอนด์!! จึงมั่นใจได้เลยว่าเราจะได้ทานรสชาติแบบต้นตำรับแน่นอน เนื้อแน่นหนึบหนับ รสชาติเข้มข้น




พิเศษสำหรับช่วงเทศกาลคริสต์มาสต์จนถึงปีใหม่ The Cheesecake Factory Bakery ได้จัดกล่องรวม "Grand Cheesecake Selection" รสชาติที่ได้รับความนิยม 4 รสชาติ 8 ชิ้น ในราคาเพียง 1,200 บาท สามารถซื้อมารับประทานเองที่บ้านหรือเป็นของฝากในช่วงเทศกาลแห่งความสุขนี้ได้ที่ Gourmet Market @Siam Paragon จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการวันแรก ในวันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา


Chocolate Mousse Cheesecake ตัวนี้ก็ดี ใครที่สายช็อคโกแลตอย่าลืมไปลิ้มลอง ส่วนรสชาติที่เราชอบมากที่สุดก็คือ Strawberry Topped Original Cheesecake ชื่อก็บอกอยู่ว่า Original มันอารมณ์แบบเรียบง่ายแต่ได้เรื่อย ๆ มีสตอเบอร์รี่มาเบรกไม่ให้เลี่ยนจนเกินไป ชอบบบ <3
  

Share:
Read More
, , , , , ,

กึ้ดเติงน่าน

บันทึกการเดินทางท่องเที่ยว จ.น่าน



001 กึ้ดเติงน่าน
On This Day ใน Facebook ย้ำเตือนความจำว่าเดือนนี้ครบหนึ่งปีแล้วที่เราเคยไปเที่ยวน่านมา เรามักจะคิดเสมอว่าถ้าเวลาผ่านไปนานแล้วเรายังอยากกลับไปที่นั่นอยู่ แปลว่าที่นั่นมีความหมายกับเรา หรือคงเป็นสถานที่ที่ทำให้เราประทับใจได้ไม่น้อย ซึ่งสำหรับน่านมันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ อยากกลับไปเที่ยวอีก "คิดถึงน่านจัง"

นี่คือครั้งแรกในการเดินทางไปน่านของเรา เป็นการระลึกความหลังขึ้นมาเขียนสักหน่อย นี่ก็ครบปีแล้วเราเดินทางไปเที่ยวน่านระหว่างวันที่ 15 - 18 พ.ย. 2559 วางแผนกันว่าจะรีบมาก่อนช่วงพีค ๆ เพราะหลังจากนี้คนจะต้องมาเที่ยวเยอะแน่ ๆ ตลอดการเดินทางเมื่อเราพบคุณลุง คุณป้า คุณพี่พนักงานร้านอาหาร ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "รีบมาเที่ยวก่อนดีแล้วหนู จะได้ไม่ต้องมาแย่งกันเที่ยว หลังจากนี้คนจะเยอะแล้ว" อย่างกับเตี๊ยมกันมา น่ารักดี



002 การเดินทาง
การเดินทางโดยเครื่องบินน่าจะสะดวก รวดเร็วทันใจที่สุด นอกจากจะเป็นการไปเที่ยวน่านครั้งแรก สิ่งที่เป็นครั้งแรกอีกอย่างของเราก็คือการเช่ารถยนต์ขับเที่ยวเองนี่แหละ รถโดยสารประจำทางอื่น ๆ เราก็ไม่รู้ว่ามีหรือเปล่านะ ไม่ได้ศึกษาเลย คือแทบจะไม่เห็นหรือเราไม่ได้สังเกตก็ไม่รู้ ฮ่าฮ่า ส่วนใหญ่เจอแต่คนที่เช่ารถขับเที่ยวกันเองทั้งนั้น ถือว่าคุ้มค่ามากกก อยากไปไหนไป อยากแวะไหนแวะ ดีงาม





003 ดอยเสมอดาว
เราถึงน่านประมาณ 18.00 น. พระอาทิตย์โบกมือลา แสงกำลังจะหมดแล้ว มาถึงเราก็รีบบู๊เลยค่ะ แวะซื้อข้าวของที่ร้านสะดวกซื้อชื่อดัง แล้วเบิ่งขับรถขึ้นดอยเสมอดาวกันโลดดด ถนนค่อนข้างดี มีมืดบางจุด และมีรถสวนมาให้ใจได้เต้นตึกตัก ฮ่าฮ่า ช่วงนั้นน่าจะทำทางใหม่พอดี หลาย ๆ ที่แอบมีการซ่อมถนน ใช้เวลาประมาณไม่ถึง 2 ชั่วโมง เราก็ถึงดอยเสมอดาวค่ะ



ช่วงที่เราไปเพิ่งจะมีปรากฏการณ์ซุปเปอร์ฟูลมูน หลังคืนวันลอยกระทง ระหว่างทางที่ขับรถขึ้นดอยมาก็ยังเห็นว่าพระจันทร์ใหญ่อยู่เลย แต่ถ่ายภาพไว้ไม่ทันจริง ๆ ตอนจองตั๋วก็ไม่ได้เช็คดูว่าวันอะไรยังไง ข้างขึ้นหรือข้างแรม ผลปรากฎก็คือดงดาวก็แทบจะไม่เห็นนี่แหละค่ะ ฮ่าฮ่า เพราะแสงจากดวงจันทร์มันสว่างเกินไป แนะนำให้เช็ควันดูให้ดีก่อนนะคะ แต่เท่าที่เราไปมาก็ฟินมากแล้ว

เราเลือกนอนเต็นท์ที่ทางอุทยานมีไว้บริการ คือจริง ๆ ก็ไม่ได้เลือกหรอก แต่ด้วยความเข้าใจผิดอะไรกันไม่รู้ เจ้าของเต็นท์ที่นัดกันไว้ว่าจะมา ก็ไม่มา! เลยจำนนฟ้าดินไปเช่าเต็นท์ของทางอุทยานก็ได้ เกือบไม่มีที่นอนแล้วเรา ซึ่งก็ถือว่าใช้ได้ ไม่ได้สะอาดมาก แต่ก็ไม่ได้สกปรก แต่ถ้าใครที่มีเวลา แนะนำหาเช่าเต็นท์จากด้านล่างก่อนขึ้นมาบนดอยนะคะ อาจจะได้เต็นท์ที่กว้างขวางและสะอาดกว่า เดี๋ยวจะอวดรูปให้ดูตอนเช้าวันใหม่



ตอนนี้ขออวดรูปหมูกระทะก่อน มื้อแรกที่น่านท่ามกลางสายลมหนาว ดื่มด่ำกับการกินหมูกระทะร้อน ๆ อะไรมันจะดีปานนี้ หลังจากนั้นเราก็พากันเดินขึ้นไปบนยอดดอย ให้ลมหนาวตีหน้าเล่น แต่ลมหนาวไม่ตีเล่น ๆ ไง ตีจริงจังจนหน้าชาจ้า สุดท้ายมนุษย์ก็แพ้พ่ายธรรมชาติเช่นเคย เราหนีลงมาอาบน้ำแปรงฟันนอนดีกว่า ใส่คำว่าอาบน้ำให้ดูดี จริง ๆ ไม่ได้อาบ ฮ่าาาา



004 ตื่นแต่เช้า!!
นอนขดด้วยความหนาว ผ้าห่มไม่พอค่ะคุณ นาฬิกาที่ว่าตั้งปลุกไว้เช้าแล้ว ก็เช้าไม่เท่าเต็นท์รอบข้าง เสียงฝีเท้าเดินหยุบหยับทำให้เราตื่น นักท่องเที่ยวแทบทุกท่านต่างมุ่งหน้าไปบนยอดดอยกัน











เริ่มมีแสงจากพระอาทิตย์เข้ามาเติมเต็มให้ทะเลหมอกตรงหน้าเราสมบูรณ์แบบมากขึ้น เราต่างถ่ายภาพซิลลูเอทกันด้วยความสนุกสนาน นี่อาจจะเป็นฟ้าที่สวยงามมากกว่าตอนที่พระอาทิตย์โผล่มาเต็มดวงก็เป็นได้.... แล้วมันก็เป็นเช่นนั้นแหละค่ะ ขณะนี้เมฆได้ทำการล้อมไว้หมดแล้ว บังเกือบมิดเลย ซึ่งเราทำใจไว้แล้วนะว่าคงไม่ได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นเต็มดวงหรอก โตแล้วห้ามงอแง











005 เป็น อยู่ คือ
นี่คือสภาพความเป็นอยู่ของเรา เต็นท์ถูกจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ มีแผนผังให้เราเลือกจองได้ด้วยนะ ส่วนราคาจำไม่ได้แล้ว แต่ไม่แพงแน่นอน ห้องน้ำอยู่ในระดับพอใช้ค่ะตามแบบฉบับอุทยานแห่งชาติ








 มองจากดอยลงมายังลานกางเต็นท์ จะเห็นว่ามีบริเวณไม่กว้างมากนัก ที่จอดรถก็เช่นกัน



 มองจากลานกางเต็นท์ขึ้นไปบนยอดดอย



หลังจากดื่มด่ำกับวิวบนดอยเสมอดาวได้สักพัก แดดอันร้อนแรงก็ไล่พวกเราให้ไปหาที่หลบพัก เราก็เดินสำรวจไปยังอีกฝั่งหนึ่งของดอย หลังจากนั้นก็ไปหาข้าวเช้ากินข้างหน้าทางเข้าค่ะ







 ตรงนี้จะเป็นลานกางเต็นท์ของเอกชน



006 ไปต่อกันที่ผาชู้
ขับรถมาไม่ไกลจากดอยเสมอดาว เราก็ถึงจุดชมวิวอีกหนึ่งจุดนั่นคือบริเวณผาชู้ มีลานกางเต็นท์ไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วยค่ะ เงียบสงบและคนน้อยกว่าบริเวณดอยเสมอดาวมาก เราว่าที่นี่มองเห็นวิวไม่ค่อยเต็มตาเท่ากับที่ดอยเสมอดาว







 ผาชู้มีอะไร? มีสายธงชาติที่ยาวที่สุดในประเทศไทย เอ้อออ เอาสิ มีความว้าวแบบฮะ!!?? ฮ่าฮ่า





 007 ยืนงงในดง เสาดินนาน้อย
มีความว้าวแบบงง ๆ อีกแล้ว มันค่อนข้างเล็กกว่าที่เราคิดไว้เยอะเลย แต่แปลกตาดีนะ ธรรมชาติก็ช่างสรรค์สร้างจริง ๆ ไม่รู้ว่าทับถม กัดเซาะกันมากี่ล้านปีถึงเป็นแบบนี้ได้หนออ... ตอนเราไปคือไม่ค่อยมีคนไปเที่ยวเท่าไหร่ มีความพิศวงนิดหน่อย เราเดินชมด้วยความระมัดระวังเพราะมีสัตว์โลกผู้น่ารักอยู่เป็นระยะ ๆ









008 จะไปปัว
วันนี้เราจะไปพักที่อำเภอปัวกัน ดอยเสมอดาวกับปัวนี่คืออยู่กันคนละฟากกันเลย ถ้าขับรถยาวๆ ก็เกือบสองชั่วโมงครึ่ง เพราะงั้นเราเลยแวะในเมืองกันก่อนเพื่อทานข้าวกลางวัน และสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองน่าน สถานีแรกคือที่วัดภูมินทร์กับจิตรกรรมฝาผนังกระซิบรักบันลือโลก







 มื้อกลางวันแนะนำข้าวซอยไก่ มีหลายร้านให้เลือกสรร (ในกรุงเทพร้านไหนอร่อยแนะนำหนูที พลีส)
  


หลังจากเอร็ดอร่อยกับมื้อกลางวันเป็นที่เรียบร้อย เราก็ออกเดินทางไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองน่านกันต่อ นั่นก็คือวัดพระธาตุแช่แห้งค่ะ



พระธาตุแช่แห้ง พระธาตุประจำปีเกิดของคนปีเถาะ ตามคติความเชื่อของชาวล้านนา







 หลังจากที่เราเดินสำรวจบริเวณวัด ทักทายเจ้าแมวได้สี่ห้าตัว ก็สมควรแก่เวลาที่เราจะไปปัวกันสักที^^



ตอนนี้เราอยู่ที่อำเภอปัวกันแล้ว ขับรถมาเรื่อย ๆ ไม่ได้รีบร้อนอะไร เราแวะเข้าที่พักเพื่อเก็บสัมภาระและแอบเอนหลังอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังอีกสถานที่ซึ่งไม่ไกลจากที่พักของเรานั่นคือ วัดภูเก็ต





วัดภูเก็ตจะมีวิวทุ่งนาให้เราได้ชมกัน ถึงแม้ช่วงที่เราไปเกษตรกรจะเก็บเกี่ยวข้าวกันไปหมดแล้ว แต่ความสวยงามของตรงนี้ก็ไม่ได้น้อยลงเลย แต่กลับสวยไปอีกแบบ เราใช้เวลาชมวิวนี้จากด้านบนของวัดอยู่พักใหญ่เลย





 ได้เวลาลงไปสำรวจด้านล่างกันบ้าง แดดกำลัง (แรง) ดีเลย







 เดินสำรวจกันมาเหนื่อย ๆ ก็ต้องหาน้ำหวาน ๆ มาดื่มให้ชื่นใจ





กาแฟบ้านไทลื้อ ร้านดังที่ใครไปเที่ยวน่านก็ต้องไม่พลาดที่จะเช็คอิน มีความน่ารักเก๋ไก๋ ชมวิวทุ่งนาในราคามิตรภาพ แถมได้ชมความงามของผ้าไทยจากร้านลำดวนผ้าทอ ซึ่งอยู่ในอาณาเขตเดียวกัน









009 สายวันใหม่
วันนี้เราปล่อยตัวเองตื่นสายนิดหน่อย อิดออดกับการทานมื้อเช้าที่คุณป้าชวนให้มาทาน ทั้ง ๆ ที่เราจองที่พักแบบไม่มีอาหารเช้า แถมคุณป้ายังผัดผักบุ้งมาเผื่อเราอีกจาน นอกจากความสวยงามของสถานที่เที่ยวทางธรรมชาติ ศิลปะวัฒธรรม และสถาปัตยกรรมต่างๆ ก็คงจะเป็นชาวน่านที่เราได้พบเจอนี่แหละที่ทำให้เราประทับใจ

หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจมื้อเช้า เราขับรถไปลุยกันต่อที่ดอยภูคา ระหว่างทางมีต้นไม้น้อยใหญ่ที่ค่อนข้างทึบ (กว่าแถบดอยเสมอดาว) บังแดดให้เราได้เป็นอย่างดี เราลดกระจกลงรับไอเย็นของอากาศที่ถึงแม้ตอนนั้นจะสิบโมงกว่าแล้วแต่ก็ยังเย็นเหมือนตอนเช้ามืด



ด้านบนดอยภูคามีลานกางเต็นท์ และบ้านพักของอุทยานซึ่งน่าสนใจมากกก ไว้ทริปหน้าลองมานอนที่นี่บ้างดีกว่า อากาศด้านบนในช่วงเวลานี้ที่ดอยภูคายังเย็นอยู่เลย ถ้าเป็นดอยเสมอดาวร้อนตับแตกไปแล้ว นี่เป็นข้อแตกต่างที่เราสัมผัสได้









จุดชมวิว 1715 เราจำไม่ได้ว่าทำไมถึงมาจุดนี้ ไม่แน่ใจว่าบังเอิญขับรถผ่าน 
หรือเห็นป้ายแล้วตามมา แต่ก็มาแล้ว และดีใจที่ได้มา 









 ชีวิตมีขึ้นแล้วก็ต้องมีลง... ลงไปหาอะไรกินต่อเถอะ



010 ติดใจเห็ด ณ ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ
ไม่รู้ว่าตอนนั้นเกิดอะไรขึ้น แต่เหมือนจะง่วง ๆ และหลับไป ตื่นมาอีกทีก็ถึงจุดหมายที่เรานัดแนะกันไว้ว่าจะมาอีก นี่เป็นครั้งที่สองกับฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ เมื่อวานเรามาโดนพิซซ่าเห็ดไป คือมันถูกปากเราอะ อร่อยมากจริง ๆ สารพัดเมนูเห็ดหาได้จากที่นี่ วันนี้เลยต้องมาซ้ำ จะอวดรูปให้ชม ณ บัดนี้



 บรรยากาศก็ดีไปอีกก











เรากำลังลงไปเดินเล่นยังทุ่งนาด้านล่าง บริเวณนั้นก็จะเป็นทางเดินไปวังศิลาแลงได้ด้วย เราเดินไปถึงปากทางที่คาดว่าจะเป็นทางเข้าวังศิลาแลงแล้วแหละ แต่ไม่มีป้ายบอกทางใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่มีนักท่องเที่ยวไม่มีชาวบ้านเลยแม้แต่คนเดียว เรามากันแค่สองคนเลยแบบ...ไม่ไปดีกว่า เดี๋ยวเรียกให้ช่วยแล้วไม่มีคนได้ยิน ฮ่าาา เลยได้ภาพถ่ายมาแค่ใบเดียวจากตรงด้านหน้า







011 ในเมือง
คืนสุดท้ายเราพักในตัวเมืองซึ่งอยู่ไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตนัก หลังจากแวะนำสัมภาระไปเก็บเราก็ออกมาตระเวนกันต่อ โดยทิ้งรถยนต์ไว้ที่ที่พักนั่นแหละ แล้วเปลี่ยนมาปั่นจักรยานลดโลกร้อนกัน ทางที่พักมีจักรยานให้เรายืมโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม เราเลยขี่กรุ๊งกริ้ง ๆ ตระเวนไปทั่ว







 วัดศรีพันต้น





 พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน





 วัดมิ่งเมือง เสาพระหลักเมือง





 ก่อนนอนวันนี้จัดของหวานป้านิ่มกันไป ...หลับสบาย





012 ไว้เจอกันใหม่นะน่าน
วันนี้ไม่มีกิจกรรมใด ๆ แล้ว เป็นวันที่เราเดินทางกลับกรุงเทพฯ ทริปนี้ก็ประทับใจอีกเช่นเคย (เรียกว่าได้ไปเที่ยวเมื่อไหร่ก็ประทับใจเมื่อนั้นแหละสำหรับเรา ฮ่าา) แต่สำหรับน่านนี่ยังคิดถึงอยู่เสมอ ๆ เลยแหละ มันน่าจะเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่าเราประทับใจกับที่นี่จริง ๆ







ขอบคุณเพื่อนร่วมทางที่น่ารักเหมือนเดิม :) 
วงกลม.

Share:
Read More